นักศึกษา SEAS-KKU ชั้นปีที่ 2 และ 3 ภายใต้การสนับสนุนของหลักสูตรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดโครงการ
SEAS Tour: ไหว้พระ ชมเมือง เรียนรู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมอีสาน สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น.ขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ได้รู้จักกับสถานที่สำคัญต่างๆในจังหวัดขอนแก่น นอกเหนือจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องผ่านการเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมอีสานนอกห้องเรียนอีกด้วย โดยสถานที่สำคัญต่างๆที่ได้พานักศึกษาชั้นปีที่ 1 ไปนั้น ได้แก่ ศาลหลักเมือง สวนสาธารณะบึงแก่นนคร(สวนดอกคูณ) วัดหนองแวง วัดกลาง และวัดธาตุ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
|
นักศึกษาชั้นปีที่ 1และนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ต่างตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อนๆ |
|
พร้อมแล้วสำหรับการออกเดินทาง |
ในช่วงเช้าผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 58 คน ต่างได้มารอกันและกัน ณ ศาลาก้านของ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อเตรียมออกเดินทางสู่สถานที่แรก คือ ศาลหลักเมือง
|
ถ่ายภาพกับศาลหลีกเมืองเพื่อเป็นที่ระลึก |
1.ศาลหลักเมืองขอนแก่น เป็นอาคารทรงมณฑป มีประตูทางเข้าสี่ด้าน ตัวเสาหลักเมืองเป็นเสมาสมัยทวารวดีที่นำมาจากเมืองโบราณโนนเมือง อำเภอชุมแพ ซึ่งเป็นชุมชนโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเมืองโบราณสมัยทวารวดี โดยทั่วไปเป็นศาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีการสักการบูชาอย่างล้นหลาม ทั้งชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน เนื่องด้วยเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองของจังหวัดขอนแก่นมาอย่างยาวนาน เมื่อไกด์บรรยายประวัติของศาลหลักเมืองเสร็จสิ้น จึงได้ให้เวลากับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในการเดินชมศาลหลักเมืองตามอัธยาศัย จากนั้นพวกเราทุกคนได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนที่จะไปสู่สถานที่สำคัญต่อไป คือ สวนสาธารณะบึงแก่นนคร (สวนดอกคูณ)
2. สวนสาธารณะบึงแก่นนคร (สวนดอกคูณ) ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมสันทนาการ และพักทานข้าวเที่ยงก่อนที่จะไปยังวัดหนองแวง (พระมหาธาตุแก่นนคร) กิจกรรมสันทนาการที่จัดมีทั้งหมด 3 เกม ได้แก่
1. เกมมือที่สาม วิธีการเล่นคือ ให้ผู้เล่นเกมจับคู่กัน มีคู่นึงวิ่งแบบคนนึงวิ่งหนี อีกคนวิ่งไล่ ถ้าคนที่วิ่งหนีไปซ้อนอยู่หน้าคู่ไหน คนที่อยู่ข้างหลังต้องวิ่ง และคนที่วิ่งต้องวิ่งจนกว่าจะแตะคนที่วิ่งทัน จุดประสงค์ของเกมคือ เน้นความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่ และรุ่นน้องให้กระชับขึ้น และรู้จักกันมากขึ้น
2. เกมสองชาเย็น วิธีการเล่นคือ ให้ผู้เล่นเกมเขียนสถานที่ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น และสถานที่ในอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากนั้นให้ใบ้สถานที่โดยห้ามพูดชื่อ จุดประสงค์ของเกมคือ ทดสอบความรู้ และไหวพริบของผู้เล่น
3. เกมห่วงยางห่วงใย วิธีการเล่นคือ ให้ผู้เล่นเกมส่งหนังยางโดยใช้หลอด จากหัวแถวไปท้ายแถว จุดประสงค์ของเกมคือ ทดสอบความสามัคคี และการทำงานเป็นทีม
ต่อมาเมื่อกิจกรรมสันทนาการทั้ง 3 เกมเสร็จสิ้น ก็ถึงเวลาพักเที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นพวกเราทุกคนก็เดินไปยังสถานที่ที่ 3 คือ วัดหนองแวง (พระมหาธาตุแก่นนคร)
|
ผู้เล่นเกมต่างกำลังคิดคำใบ้สถานที่ |
|
ห้ามทำยางตกเชียวนะ |
|
หลังจากทำภารกิจแล้วก็มาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก |
3. วัดหนองแวง (พระมหาธาตุแก่นนคร) แต่เดิมนั้นชื่อวัดเหนือ เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชาวจังหวัดขอนแก่น ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระมหาธาตุแก่นนคร จัดสร้างขึ้น เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี อีกทั้งยังมีการรวบรวมคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเอาไว้วัดแห่งนี้ และชั้นบนสุด (ชั้น 9) เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุกลางบุษบกอีกด้วย ซึ่งภายในองค์พระธาตุมีทั้งหมด 9 ชั้น ซึ่งภายใน 9 ชั้นนั้น ล้วนมีสิ่งต่างๆที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เช่น มีพระบรมสารีริกธาตุ จำลอง (ชั้นที่ 1) มีพิพิธภัณฑ์ของชาวอีสานที่มีข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ และภาพวาดคะลำทั้ง 32 ภาพ(ชั้นที่ 2) มีหอพระธรรม เป็นที่รวบรวมพระธรรม พระไตรปิฏก(ชั้นที่ 8) เป็นต้น
|
ไกด์(นักศึกษาชั้นปีที่ 3) กำลังอ่านภารกิจให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 |
|
นักศึกษาชั้นปีที่ 1 กำลังปรึกษาหารือเกี่ยวกับภารกิจ |
สถานที่ตรงนี้ได้ใช้เวลามากกว่าที่อื่นๆคือใช้เวลา 40 นาที เนื่องจากมีภารกิจต่างๆ ให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในแต่ละกลุ่มทำ ซึ่งน้องๆก็ทำออกมาได้ดี และอยู่ในเวลาที่กำหนด ตัวอย่างภารกิจเช่น การถ่ายรูปภาพวิวให้เหมือนกับต้นฉบับมากที่สุด การหาภาพคะลำ การหาประวัติของท่านเจ้าอาวาส เป็นต้น สำหรับกลุ่มที่ชนะคือกลุ่มที่ 2 รางวัลที่ได้รับคือ ขนม 1 ห่อใหญ่ และสมุดบันทึกที่ให้กับสมาชิกทุกคนในกลุ่ม จากนั้นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ได้ถ่ายรูปภาพเป็นที่ระลึก ต่อมาพวกเราทุกคนก็ไปยังสถานที่ต่อไปคือ วัดกลาง
|
กำลังฟังไกด์บรรยายอย่างกระตือรือร้น |
4. วัดกลาง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2333 โดยพระนครศรีบริรักษ์ บรมราชภักดี (ท้าวเพี๊ยะ เมืองแพน) เจ้าเมืองขอนแก่นคนแรกเป็นผู้ก่อสร้าง พร้อมการตั้งเมืองขอนแก่น พระพุทธรูปประธานวัดกลาง คือ 'หลวงพ่อใหญ่' หลวงพ่อใหญ่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่อด้วยอิฐปูนลงรักปิดทอง ขนาดหน้าตัก 5 ศอก สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ.2333 โดยพระนครศรีบริรักษ์ อีกทั้งยังมีการบูรณะใหม่เมื่อประมาณปี พ.ศ.2510 โดยพระครูมงคลสารนิเทศ (น้อย) พุทธลักษณะนั่งขัดสมาธิ มีพระหัตถ์เบื้องขวาคว่ำที่พระเพลา ปลายนิ้วพระหัตถ์ชี้ลงแผ่นดิน ในอดีตใช้วัดแห่งนี้ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการ และเป็นโรงเรียนประชาบาลแห่งแรกในจังหวัดขอนแก่นอีกด้วย เมื่อไกด์บรรยายจบก็ได้ให้เวลานักศึกษาชั้นปีที่ 1 ไปเที่ยวชมวัดตามอัธยาศัยพร้อมกับถ่ายรูปภาพเป็นที่ระลึก หลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็ไปยังสถานที่สำคัญที่สุดท้าย คือ วัดธาตุ พระอารามหลวง
|
แดดร้อนแค่ไหนนักศึกษาสาขา SEAS ไม่เคยกลัว
|
5. วัดธาตุ พระอารามหลวง สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2332(ก่อนวัดกลาง 1 ปี) โดยพระนครศรีบริรักษ์บรมราช ภักดี (เพี้ยเมืองแพน) เจ้าเมืองขอนแก่น เป็นผู้ก่อสร้างขึ้นพร้อมกับการตั้งเมืองขอนแก่น และได้สร้างพระธาตุนคร เดิมขึ้นเป็นปูชนียสถานที่เคารพสักการะของชาวเมืองขอนแก่น จึงเรียกชื่อวัดนี้ว่า 'วัดธาตุ' และยังได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อปี พ.ศ. 2521 ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจอีกประการของวัดแห่งนี้คือ 'หลวงพ่อพระลับ' หรือพระศรีสัตนาคนหุต สร้างขึ้นโดย พระเจ้าโพธิสาร พระมหาธรรมิกราชาธราช ประมาณพ.ศ. 2068 ณ นครหลวงพระบาง ปัจจุบันหลวงพ่อพระลับ ได้ถูกจำลองได้ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ และศาลาการเปรียญที่วัดธาตุ พระอารามหลวงแล้ว อีกทั้ง ดร.พระเทพกิตติรังสี (ทองสา วรลาโภ) อดีตเจ้าอาวาส ได้สร้างองค์จำลองไปประดิษฐานไว้ที่วิหารรอบโรงพระอุโบสถ 4 ทิศ จำนวน 4 องค์อีกด้วย นอกจากนี้ทางวัดยังได้มีวิทยากร (ไวยาวัจกร) มาให้ความรู้เพิ่มเติมแก่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 นอกเหนือจากไกด์ของเราอีกด้วย พอเสร็จสิ้นการบรรยาย พวกเราก็ใช้เวลาที่เหลือในการเดินชมวัด ก่อนที่พวกเราทุกคนจะเดินทางกลับมหาวิทยาลัยขอนแก่น
|
มีท่านวิทยากร (ไวยาวัจกร) มาให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดธาตุ |
|
นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ต่างจดข้อมูลกันอย่างขมักเขม้น |
|
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกในพระอุโบสถวัดธาตุ
|
ระหว่างทางกลับไปยังมหาวิทยาลัยขอนแก่นนั้นทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องต่างก็ได้พูดความในใจต่อการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เป็นอย่างดี หลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็กลับมหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยสวัสดิภาพ
สำหรับโครงการ SEAS Tour: ไหว้พระ ชมเมือง เรียนรู้เรื่องศิลปวัฒนธรรมอีสาน ตามที่ได้กล่าวไปในตอนต้นแล้วว่าเป็นโครงการที่เน้นให้รุ่นน้องได้รู้จักกับสถานที่สำคัญต่างๆนอกเหนือจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับรุ่นพี่ นอกจากนี้ก็ยังได้เป็นการฝึกนักศึกษาชั้นปีที่ 3 เอกประวัติศาสตร์เพื่อการท่องเที่ยว มาฝึกเป็นไกด์ครั้งแรกอีกด้วย และยังได้ฝึกทักษะการทำงานร่วมกัน การวางแผนงาน การประสานงาน ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับการเตรียมตัวสหกิจศึกษา และการประกอบอาชีพในอนาคตอันใกล้ สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดที่โครงการนี้สำเร็จไปได้ด้วยดีนั้น เป็นเพราะอาศัยการประสานงานที่ดีมากทั้งจากรุ่นพี่ และรุ่นน้อง รวมถึงการนำข้อผิดพลาดจากกิจกรรมที่ผ่านมา มาพัฒนา และปรับปรุงแก้ไขอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนงานในวันนี้ออกมาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
No comments:
Post a Comment