โดยกิจกรรมมีรายละเอียดดังนี้
วันแรก 23 กรกฎาคม 2561 เดินทางจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นไปเสียมเรียบ ผ่านด่านช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ จากด่านช่องจอมเข้าสู่จังหวัดเสียมราฐ (Siem Reap) มีระยะทาง 165 กิโลเมตร โดยสถานที่แรกที่เข้าศึกษาในช่วงบ่าย คือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครวัด (Angkor National Museum) ศึกษาประวัติศาสตร์กัมพูชา ผ่านห้องจัดแสดง ซึ่งแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ 9 ห้อง ได้แก่ ห้องจัดแสดงพิเศษ พระพุทธรูป 1000 องค์ โดยจัดแสดงพระพุทธรูปตามยุคสมัยต่างๆ ห้องจัดแสดงกำเนิดอาณาจักรขอม บอกเล่าความเป็นมาของอาณาจักรขอม ห้องจัดแสดงศาสนาความเชื่อของชาวกัมพูชา เล่าเรื่องเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของศาสนาในประเทศกัมพูชา เรื่องเล่าเกี่ยวกับเทพเจ้าต่างๆ
ยังมีห้องจัดแสดงเกี่ยวกับ กษัตริย์เขมรผู้ยิ่งใหญ่ บอกเล่าประวัติความเป็นมาและพระราชกรณียกิจของกษัตริย์เขมรทุกพระองค์ ห้องจัดแสดงนครวัด แสดงนครวัดจำลอง และมีการฉายวีดีทัศน์เกี่ยวกับนครวัด ห้องจัดแสดงนครธม เรียนรู้สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม ศาสนาที่มีผลต่อการใช้ชีวิตในยุคต่างๆ และระบบสาธารณูปโภค ห้องจัดแสดงเรื่อองเล่าจากศิลาบทบันทึกทางวัฒนธรรม แสดงศิลาจารึกที่ค้นพบในอาณาจักรเมืองพระนคร และสุดท้ายห้องจัดแสดง พัสตราภรณ์โบราณเสน่ห์แห่งนางอัปสรา แสดงให้เห็นเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายของผู้คนในอดีต และความงดงามของนางอัปสรา หลังจากนั้นได้ไปไหว้ องค์เจก องค์จอม พระคู่บ้านคู่เมืองเมืองเสียมราฐ
ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 ศึกษาประวัติศาสตร์เมืองพระนคร แต่ก่อนเข้าศึกษาโบราณสถานสำคัญต้องซื้อบัตรเข้าชม สำหรับการเข้าชมในระยะเวลา 1 วัน ราคา 37 ดอลล่าร์ และลำดับแรกที่ไปศึกษา คือ ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) ได้ขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เพื่ออุทิศถวายแด่พระวิษณุ มีการจำลองระบบจักรวาลตามความเชื่อของชาวฮินดู มีภาพสลักพระวิษณุตามส่วนต่างๆของปราสาท เช่น หน้าบัน เสา ทับหลัง ภาพสลักเรื่อเล่ารามเกียรติ์ ภาพสลักเรื่องราวของอวตารปางต่างๆ ของพระวิษณุ ภาพที่ได้รับความสนใจคือภาพการกวนเกษียรสมุทร
หลังจากนั้นได้ไปศึกษา เมืองนครธม (Angkor Thom) เริ่มจากสะพานนาคราช มีแถวของยักษ์หลายตนเรียงรายทางด้านขวาและแถวเทวดาทางด้านซ้าย ผ่านโคปุระที่มีพระพักตร์พระโพธิสัตว์ โดยมีพระพักตร์โดยรอบทั้ง 4 ทิศ และศึกษาภาพแกะสลักที่ ปราสาทบายน (Bayon) ศูนย์กลางของเมืองนครธม มีภาพสลักสำคัญโดยรอบระเบียงคต เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตและการยกทัพไปทำสงครามกับจามปาในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จุดเด่นของปราสาทคือ พระพักตร์ของพระโพธิสัตว์ ที่มีจำนวนมากมายภายใต้โครงสร้างปราสาทที่สลับซับซ้อน
จากนั้นได้ศึกษา ปราสาทตาพรหม (Ta Prohm) ซึ่งเป็นปราสาทที่สร้างในสมัยพระจ้าชัยวรมันที่ 7 เช่นเดียวกัน เพื่อเป็นวิหารอุทิศให้กับพระราชมารดาของพระองค์ จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือ มีต้นสะปงยักษ์ ขนาดใหญ่จำนวนมากขึ้นคลุมตัวปราสาท และเป็นสถานที่เพียงไม่กี่แห่งที่ัยังอนุรักษ์ต้นไม้เหล่านี้ไว้ และสถานที่แห่งนี้ยังเคยใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่อง เช่น ทูมไรเดอร์ เจมส์บอนด์ และสถานที่แห่งสุดท้ายที่ศึกษาในวันนี้ คือ ปราสาทบันทายสรี (Banteay Srei) มีจุดเด่นคือปราสาทหินทรายสีชมพู ที่สลักลวดลายละเอียด อ่อนช้อย ในแทบทุกพื้นที่ จนได้ชื่อว่าเป็นปราสาทที่มีความงดงามมากที่สุดในกลุ่มปราสาททั้งหมด
ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 ได้ศึกษาประวัติศาสตร์ในยุคเขมรแดงที่ วัดใหม่ (Wat Thmei) เป็นพื้นที่สำหรับทิ้งศพผู้เสียชีวิตในสมัยเขมรแดง และมีแสดงภาพถ่ายภาพวาดและกระดูกผู้เสียชีวิตที่เมืองเสียมราฐและใกล้เคียง และสุดท้ายแวะซื้อของที่ระลึกก่อนกลับที่ ตลาดเก่า (Old market) จากนั้นเดินทางกลับด่านโอลเสม็ดข้ามมายังด่านช่องจอม และกลับถึงมหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยสวัสดิภาพ
การได้เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ได้เรียนรู้และได้ประสบการณ์หลายๆอย่าง อาทิเช่น ขั้นตอนการเข้าออกนอกประเทศและการเตรียมเอกสารสำคัญ นอกจากนี้ ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์กัมพูชาในสมัยต่างๆจากสถานที่จริง ซึ่งช่วยเปิดมุมมองของนักศึกษาในมิติต่างๆ ทั้งทางศาสนา สังคม และวัฒนธรรมเกี่ยวกับประเทศกัมพูชาจากอดีตจนถึงการพัฒนาการของประเทศกัมพูชาได้กว้างขวางและลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะใช้ในการศึกษาทั้งในเชิงวิเคราะห์และสังเคราะห์เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป
No comments:
Post a Comment