โครงการสำรวจและเก็บข้อมูลภาคสนามประเทศหมู่เกาะ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำปีการศึกษา 2562

หลักสูตรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาได้ดำเนินโครงการสำรวจและเก็บข้อมูลภาคสนาม ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 18 – 21 มกราคม พ.ศ. 2563 โดยมีนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ร่วมเดินทางทั้งหมด 26 คน และมีอาจารย์อีก 2 ท่าน ร่วมเดินทางไปด้วย รวมทั้งสิ้น 28 คน ซึ่งสิงคโปร์ประเทศหมู่เกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีข้อจำกัดด้านทรัพยากร แต่กลับมีพัฒนาการด้านต่างๆ ในระดับต้น ๆ ของโลก จึงเป็นประเทศหมู่เกาะที่มีความน่าสนใจศึกษา

รายงานโดย ทิตาวีร์ การรัมย์

วรัญญา  คลื่นแก้ว และ

เกวลิน พรพงษ์

การเดินทางไปทัศนศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการสำรวจและเก็บข้อมูลภาคสนามของอาจารย์และนักศึกษาในหลักสูตรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา เนื่องจากประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถือได้ว่ามีเสถียรภาพทางการเมืองที่ดีที่สุดและประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมทั้งยังเป็นประเทศที่มีการศึกษาติดอันดับต้น ๆ ของโลก และยังเป็นศูนย์รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ เหตุนี้จึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เดินทางไปทัศนศึกษาเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ นอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียน ตลอดจนเรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบันกับการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของวัฒนธรรมที่หลากหลายของสังคมสิงคโปร์

วันที่ 18 มกราคม 2563 

ทางหลักสูตรฯได้พานักศึกษาไปศึกษาตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่

Merlion Park หรือที่รู้จักกันในนาม สิงโตเงือก มีรูปร่างเป็นสิงโต มีหางเป็นปลา และอยู่บนยอดคลื่น ถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ เราจึงพลาดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ประจำชาติสิงคโปร์ บรรยากาศโดยรอบของ Merlion Park มีฉากด้านหลังเป็น Marina Bay Sands เมกะโปรเจกต์ของสิงคโปร์ เป็นอาคารที่มีลักษณะคล้ายกอไผ่ 3 กอง และมีเรือขนาดใหญ่วางซ้อนด้านบนอีกชั้นหนึ่ง

ต่อมาเดินทางไป ย่านไชน่าทาวน์ เพื่อทำการสักการะขอพร ณ วัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นวัดพุทธนิกายมหายาน ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมในแบบราชวงศ์ถัง ด้วยเงิน 62 ล้านเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปี ภายในวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระทนต์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งค้นพบในปี 1980 หลังการถล่มของสถูปแห่งหนึ่งในประเทศพม่า หลังจากทำการสักการะที่วัดพระเขี้ยวแก้ว ก็ถึงเวลาเดินสำรวจอาคารบ้านเรือนของชาวจีนที่ยังคงเอกลักษณ์ในย่านนี้ และยังมีร้านค้าอีกมากมายจากพ่อค้าแม่ค้าชาวจีน เช่น ของที่ระลึกรูป Merlion หนังปลาไข่เค็มที่มีรสชาติถูกปากคนไทยจึงทำให้เป็นของฝากสิงค์โปร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

จากนั้นคณะของเราได้ไปเที่ยวชม Garden By the Bay แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่บนเกาะสิงคโปร์ เป็นการเข้าชมการจัดสวนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งสถานที่แห่งนี้ทำให้ชาวคณะตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของต้นไม้นานาพันธุ์ ซึ่งที่นี่มีโดม 2 โดม แบ่งเป็น Flower Dome (โดมกระจก ด้านในแสดงดอกไม้นานาพันธุ์) และ Cloud Forest Dome (โดมจำลองป่า และ บรรยากาศหมอก น้ำตก)

ในช่วงค่ำของวัน ชาวคณะรับประทานอาหารเย็นที่ภัตตาคาร จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่ที่พัก Oxford Hotel

วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2563

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม หลังจากนั้น เวลา 9.50 น.(ตามเวลาท้องถิ่นสิงคโปร์) ชาวคณะได้เดินทางเข้าชม National Library หอสมุดแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์เนื่องจากรัฐบาลประเทศสิงคโปร์ได้ให้ความสำคัญกับระบบการศึกษาภายในประเทศเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าสิ่งนี้คือพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพได้ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ลงทุนสร้างอาคารหอสมุดแห่งชาติสิงคโปร์ไว้ใจกลางเมือง ไปถึงได้ด้วยบริการขนส่งสาธารณะทั้งรถประจำทางและรถไฟฟ้าใต้ดิน อีกทั้งในหอสมุดยังแบ่งโซนเป็นหลายประเภท แบ่งแยกหนังสือสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ อีกทั้งมีหนังสือหลากหลายภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ จีน มลายู และทมิฬ ซึ่งเป็นภาษาทางการของประเทศ เพื่อเอื้อต่อการที่สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ เพื่อให้พลเมืองสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง

หลังจากนั้นในช่วงบ่าย ชาวคณะแยกย้ายตามอัธยาศัย โดยมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ชม เช่น little India  กิจกรรมล่องเรือชมเมือง สวนสนุก Universal Studio  ชายหาดที่เซนโตซ่า (Sentosa beach) เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563

รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม จากนั้นเวลา 08.30 น.(ตามเวลาท้องถิ่นสิงคโปร์) ชาวคณะได้เดินทางไปกราบไหว้ วัดกวนอิมตงฮุดโช เป็นวัดในย่านบูกิส ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากบนเกาะสิงคโปร์ เพราะว่าที่นี่มีคนแวะเวียนมาสักการะเจ้าแม่กวนอิมเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าใครที่มาขอพรจะได้สมปรารถนา

ต่อมาเข้าชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของชาติสิงคโปร์ตั้งแต่แรกเริ่มเป็นเกาะเล็กๆที่ไม่ค่อยมีผู้คนอาศัย จนเข้าสู่ยุคที่สิงคโปร์กลายมาเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักรอังกฤษ ได้อิสรภาพจากชาติตะวันตก และได้ประกาศตัวเป็นอิสรภาพในปี 1965 โดยมี “ลี กวน ยู” เป็นนายกรัฐมนตรีได้พัฒนาประเทศจนกลายมาเป็นจุดศูนย์รวมการค้าของภูมิภาค นอกจากเรื่องประวัติศาสตร์ National Museum of Singapore ยังมีการจัดแสดงงานศิลปะต่างๆด้วย

จากนั้นรับประทานมื้อเที่ยงที่ร้าน Song Fa ร้านอาหารชื่อดังของสิงคโปร์ ซึ่งมีลูกค้ารอคิวยาวมากพอสมควร ทำให้ชาวคณะตื่นตาตื่นใจกับการรอคอยที่จะได้ลิ้มรสชาติบักกุ๊ดเต๋ ระดับ Michelin Guide Singapore ซึ่งได้รางวัลนานถึง 3 ปีซ้อน

ช่วงบ่ายเดินทางเข้าชม Fort Canning Park เป็นอีกหนึ่งที่ที่มีประวัติอันยาวนานซึ่งเดิมเคยเป็นที่ตั้งวังกษัตริย์ชาวมาเลย์ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่บนเนินเขาใจกลางตัวเมืองสิงคโปร์ โดยจุดที่เป็นแลนด์มาร์คของที่นี่คือ อุโมงค์ต้นไม้ ที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูปให้ได้ เรียกว่าเป็นจุดมหาชนเลยก็ว่าได้ หลังจากถ่ายรูปและชมความสวยงามของ Fort Canning Park เป็นที่เรียบร้อย ถึงเวลาเดินทางสู่ ถนนออร์ชาด ถนนช้อปปิ้งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นถนนช้อปปิ้งที่ดีที่สุดในโลก มีห้างสรรพสินค้ามากมาย อาทิ เช่น ห้าง Takashimaya, Lucky Plaza , Paragon เป็นต้น

เวลา 16.00 น. เดินทางสู่ สนามบินชางงี เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทยตามตารางการเดินทาง และแวะชม The Jewel Changi ไฮไลท์ของที่นี้ ได้แก่ ลานน้ำตกกลางแจ้งอยู่ตรงกลางของตัวอาคาร ซึ่งถือว่าเป็นน้ำตกในอาคารที่สูงที่สุดในโลก ด้านในของตัวอาคารนั้นนอกจากจะมีส่วนที่เป็นน้ำตกจากด้านบนแล้ว ส่วนตรงกลางก็ยังมีรางของรถไฟฟ้า ที่รับส่งผู้โดยสารจากอาคารผู้โดยสารหลังต่างๆ ภายในสนามบินเมื่อรถไฟฟ้าผ่านมาก็ยิ่งเพิ่มความสวยงามและความน่าสนใจของตัวอาคารได้มากขึ้นไปอีก ถือเป็นความอลังการและสร้างสรรค์ที่สุดของโลกเลยก็ว่าได้

เวลา 21.00 น. ถึงเวลาเดินทางสู่ประเทศไทย แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์เที่ยวบินถูกยกเลิก ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับสู่ประเทศไทยได้ในวันเวลาดังกล่าว เนื่องจากเหตุขัดข้องของสายการบิน หลังจากนั้นประมาณ 7 ชั่วโมง พวกเราชาวคณะจึงได้เดินทางเข้าพักที่โรงแรม Mercure ตามที่สายการบินได้ทำการจัดหาให้ เข้าพักเป็นระยะเวลา 1 คืน

วันอังคารที่ 21 มกราคม 2563

วันสุดท้ายของการเดินทาง หลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว พวกเราชาวคณะเดินทางสู่สนามบินชางงีอีกครั้งในตอนสาย จนกระทั่ง เวลา 13.30 น. ออกเดินทางจากสิงคโปร์สู่กรุงเทพฯ ถึงกรุงเทพฯในเวลา 15.30 น. และเดินทางโดยรถบัสมหาวิทยาลัยถึงขอนแก่นโดยสวัสดิภาพ ในเวลาประมาณ 23.00 น.

สิ้นสุดการเดินทางทริปหมู่เกาะของนักศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาชั้นปีที่ 3 การเดินทางในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ของนักศึกษาทุกคน ได้เรียนรู้และเห็นความแตกต่างทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม ภาษา ศาสนา และชาติพันธุ์ ที่มีความเป็นพหุวัฒนธรรม แต่สามารถอยู่รวมกันได้อย่างสันติสุข เห็นความเจริญก้าวหน้า การพัฒนาด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งทำให้เกิดความคิดใหม่ ๆ สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต

โดยภาพรวมสิงคโปร์เป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นศูนย์กลางพาณิชย์สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง โดยเป็นศูนย์กลางการเงินใหญ่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก และถือเป็นประเทศที่มีความล้ำสมัยเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ตึกอาคารของสิงคโปร์จะมีการออกแบบผสมผสานทางศิลปะทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งภายในเมืองมีความเป็นระเบียบ สะอาด การคมนาคมสะดวกสบาย และผู้คนเป็นมิตร

สิงคโปร์ถือเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม มีผู้คนอยู่อาศัยหลากหลายเชื้อชาติประกอบไปด้วย ชาวจีน ชาวมาเลย์ และชาวอินเดีย เป็นต้น ทำให้สิงคโปร์มีความหลากหลายเชื้อชาติ ภาษา และวัฒนธรรม และในส่วนด้านอาหารของสิงคโปร์ เป็นตัวบ่งชี้ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในสิงคโปร์ อาหารส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวพื้นเมืองมลายู ชาวจีน อินโดนีเซีย เปอรานากัน วัฒนธรรมตะวันตกซึ่งมาจากอังกฤษ ทำให้มีอาหารมีความหลากหลายทางรสชาติ และทางคณะอาจารย์นักศึกษาก็ได้ลองรับประทานบักกุ๊ดเต๋ ถือเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในสิงคโปร์ หากผู้ใดที่มาสิงคโปร์แล้วไม่ลองรับประทานจะถือว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์เลยก็ว่าได้