รายงาน/ภาพ โดย วรรณณิภา ทองหน่อหล้า และกมลทิพย์ เชื้อตาอ่อน
“ทะเลสีใสเมืองระยอง ลิ้มลองของดีเมืองจันท์ พักผ่อนพร้อมกันที่โรงแรมหรูเกาะเสม็ด”
จุดนัดหมายกิจกรรม ณ ตึกรัตนพิทยา และเดินทางโดยรถบัสคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มุ่งสู่จังหวัดจันทบุรี และระยองต่อไป โดยตลอดเส้นทางมีกิจกรรมมากมาย อาทิ พายเรือคายักที่อ่าวคุ้งกระเบน เล่นน้ำใสในลำธารน้ำตกพลิ้ว ลิ้มลองผัดไทยเส้นจันท์ของดีเมืองจันท์ เซลฟีสไตล์มินิมอลที่คาเฟ่ Latte House Chanthaburi นอนฟังเสียงคลื่น ดำน้ำตื้นดูปะการัง ที่พักสุดหรูริมทะเลในเกาะเสม็ด และ บุฟเฟต์ทะเลเผาที่หาดเจ้าหลาว กิจกรรมทั้งหมดมีผู้เข้าร่วม 16 คน เป็นนักศึกษาสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา วิชาเอกสารสนเทศ จุดนัดหมายกิจกรรม ณ ตึกรัตนพิทยา และเดินทางโดยรถบัสคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มุ่งสู่จังหวัดจันทบุรี และระยองต่อไป
ตัวอย่างโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์กิจกรรม
(ที่มา: เมวดี คำมูล, ศิริลักษณ์ ช่วยเงิน และเอลิซาเบธ ไครีย์ แครอลีนา, 2565)
(ที่มา: เมวดี คำมูล, ศิริลักษณ์ ช่วยเงิน และเอลิซาเบธ ไครีย์ แครอลีนา, 2565)
เริ่มต้นการเดินทางสู่จังหวัดระยอง
วันที่ 6 ตุลาคม 2565
เวลาช่วงเช้า 04.00 น. คณะทัวร์รวมตัวที่หมาย ณ ตึกรัตนพิทยา เดินทางออกจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นและพักรับประทานอาหารเที่ยงตามอัธยาศัยที่ท่าเรือข้ามเกาะไปยังเกาะเสม็ด ประมาณเวลา 13.00 น. คณะทัวร์ เดินทางเข้าพัก SEMED SEASIDE RESORT
ระหว่างนี้ลูกทัวร์ทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาบ่ายคล้อย เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินเล่นชายหาด รวมไปถึงการสวมชุดว่ายน้ำเพื่อลงเล่นน้ำทะเล เป็นบรรยากาศยามเย็นที่ได้ใช้เวลาพักผ่อนไปกับคลื่นทะเล และท้องฟ้าสีคราม กระทั่งช่วงเย็น ลูกทัวร์ทุกท่านก็เตรียมตัวสำหรับการรับประทานอาหารเย็น
เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลา 18.00 น.ร่วมรับประทานอาหารเย็น โดยมีอาหารคาวหวาน และผลไม้รอต้อนรับทุกท่านที่ศาลามุงหญ้าคาเคล้าบรรยากาศลมทะเล ระหว่างนี้ลูกทัวร์สามารถหมุนเวียนเพื่อเดินไปตักอาหารได้อย่างใจชอบ หลังจากร่วมรับประทานอาหารเย็น ลูกทัวร์ทุกท่านก็เข้าพักผ่อนตามอัธยาศัย
เดินทางมาถึงเกาะเสม็ด
วันที่ 7 ตุลาคม 2565
เช้าตรู่ที่ริมทะเล เป็นเวลา 8.00 น. คณะทัวร์ร่วมรับประทานอาหารเช้าที่ศาลาริมทะเล เมื่อเวลา 9.30 น.เดินทางออกจาก SAMED SEASIDE RESORT เพื่อเดินทางไปท่าเรือออกจากเกาะเสม็ด และเดินทางถึงตลาดของฝากราว 10.00 น. เพื่อซื้อของฝากที่ตลาดร้อยเสา หรือตลาด 100 เสา
ตลาดร้อยเสา เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก จนต้องใช้เสามากกว่า 100 ต้น ในการสร้างเพื่อค้ำยันหลังคา ตั้งอยู่ในบริเวณตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นตลาดที่มีอาหารทะเลตากแห้งจำหน่ายในราคาที่ย่อมเยา อาทิ หมึกตากแห้ง ปลาตากแห้ง ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ เป็นต้น พร้อมทั้งผลไม้สด และอบแห้ง อาทิ ทุเรียนทอด ขนุนทอด เป็นต้น แม้จะใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง แต่ลูกทัวร์หลายท่านก็ได้ของฝากติดไม้ติดมือมากมาย
ช่วงเวลา 11.00 น. – 13.00 น. เดินทางไปยังตลาดเกาะกลอย เป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดระยอง บรรยากาศแบบย้อนยุค ตั้งอยู่บนบึงน้ำขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยร้านค้าที่ตกแต่งแบบบ้านไม้ย้อนยุค ทว่ากิจกรรมตรงนี้กลับต้องถูกชะงักไป เมื่อสถานที่แห่งนี้ได้รับผลกระทบจากสถานกาณ์โควิด 19 จนทำให้ร้านค้าหลายที่ต้องปิดลงชั่วคราว ทำให้ต้องปรับแผนการเดินทางใหม่ โดยเดินทางไปพักรับประทานอาหารที่ ปั๊มน้ำมันปตท. ในพื้นที่ถัดไป เพื่อให้ทุกท่านพักรับประทานอาหารเที่ยงแทน เป็นบทเรียนแก่การทำงานในเรื่องการวางแผนรับมือปัญหาเฉพาะหน้า ที่ต้องเรียนรู้เอาไว้อย่างมาก
ช่วงเวลา 15.00 น. เดินทางเข้าชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ต. คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ณ หาดเจ้าหลาว เป็นโครงการพัฒนาด้านอาชีพการประมงและการเกษตรในพื้นที่ชายฝั่งทะเลจันทบุรี เพื่อดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ การจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพราษฎรของศูนย์ฯ คุ้งกระเบนแห่งนี้ แต่เนื่องจากน้ำลดระดับลง ทำให้กิจกรรมคายักเป็นต้องชะงักไป หลังจากนั้นเดินทางไปที่ศูนย์พันธุ์สัตว์น้ำ หรือ สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา อ่าวคุ้งกระเบน เป็นอาคารขนาดย่อม ตั้งอยู่ริมชายหาดแหลมเสด็จ จัดแสดงปลาและสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ
ช่วงเวลา 17.10 น. เข้าพักชูการ์ ปาล์ม รีสอร์ต ริมหาดเจ้าหลาว อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็นช่วงเวลาที่ให้ลูกทัวร์เข้าพักผ่อนตามอัธยาศัย และช่วงเวลา 18.30 น. - 20.30 น. รับประทานอาหารเย็นแบบบุฟเฟต์ทะเลที่ร้านอุ๊ย อิ่มไม่ยั้ง ซึ่งมีเมนูอาหารคาวหวาน เนื้อเมนูหมูกระทะ อาหารทะเลปิ้งย่าง ขนมไทย และผลไม้ให้เลือกรับประทานตามชอบ ก่อนที่ช่วงเวลา 21.00 น. คณะทัวร์จึงเดินทางกลับเข้าที่พัก ณ ชูการ์ ปาล์ม รีสอร์ต เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย
ในวันที่สามการเดินทางจังหวัดระยอง-จันทบุรี หลังจากรับประทานอาหารเช้า และเดินทางออกจากโรงแรมชูการ์ ปาล์ม รีสอร์ตเป็นที่เรียบร้อย เป็นการเดินทางเพื่อเยี่ยมชมศาสนสถานของจังหวัดจันทบุรี ที่มีความโดดเด่นโดยเฉพาะพุทธศาสนา และคริสต์ศาสนา ผ่านสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ รวมไปถึงตลาดชุมชนเมืองจันท์ที่มีมากกว่าตลาดชุมชน
บริเวณทางขึ้นวัดปากน้ำแขมหนู
วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2565
อรุณเช้าที่ริมหาดเจ้าหลาว เวลา 08.00 น. คณะทัวร์ร่วมรับประทานอาหารเช้า และเดินทางออกจากที่พักประมาณ 08.30-09.10 น. คณะทัวร์ได้เดินทางต่อไปยังวัดปากน้ำแขมหนู ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี วัดแห่งนี้มีสีสันที่โดดเด่นจากโบสถ์เซรามิกสีน้ำเงิน ซึ่งมีความงดงามวิจิตรตระการตาจากพื้นโบสถ์สีน้ำเงินตัดกับพื้นโบสถ์สีขาว ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี
09.40-12.00 น. คณะทัวร์ได้เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองจันทบุรีเพื่อไปยังสถานที่ต่อไปนั่นคือ ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว ตั้งอยู่ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี มีลักษณะเป็นชุมชนที่เก่าแก่ มีลักษณะเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ยังคงเอกลักษณ์วิถีชีวิตชุมชนมาเป็นเวลากว่า 100 ปี บ้านเรือนไม้อาคารเก่าแก่ประดับด้วยลวดลายฉลุสวยงาม มีขนมโบราณอร่อย ๆ ที่หาทานได้ยากอีกด้วย ชุมชนขนมแปลกแห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ และความอบอุ่นของบรรยากาศชุมชน นอกจากนี้ที่นี่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องอาหารและขนมอร่อย ๆ มากมาย เป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะ
หลังจากนั้น คณะทัวร์เดินทางต่อไปยังโบสถ์อาสนวิหารพระนางมารีอา เป็นโบสถ์เก่าแก่สไตล์ยุโรป ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก อยู่คู่กับชุมชนริมน้ำจันทบูรมากว่า 300 ปี ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2254 สมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวญวน หรือชาวเวียดนาม ได้หลบหนีการเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชน พวกเขาล่องเรือมาตั้งรกรากที่ฝั่งจันทบุรี โดยมีบาทหลวงนามเฮิ้ต โตแลนติโน ที่เป็นบาทหลวงในสังฆมณฑลสยามเข้ามาดูแล ทว่าไม่นานก็เกิดเหตุการณ์เบียดเบียนชาวคริสต์ในแผ่นดินสยาม ทำให้ชาวคริสต์กลุ่มนี้ต้องโยกย้ายหลบหนี และทิ้งวิหารจนเสื่อมโทรม จนมาสร้างวิหารหลังที่สองในปี พ.ศ. 2295 ที่เหตุการณ์เริ่มสงบลง และได้ทำการโยกย้ายพื้นที่ในการสร้างใหม่อีก 2 ครั้ง และสร้างใหม่ที่ริมแม่น้ำจันทบูรเป็นครั้งที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2449 และเรียกขานกันในชื่อ “อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล” ในด้านตรงข้ามคือสะพานข้ามไปสู่ชุมชนริมน้ำจันทบูร ซึ่งเป็นตลาดริมแม่น้ำจันทบุรี ชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนและญวน ต่อมาได้พัฒนามาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5 ตลอดเส้นทางประดับประดาด้วยบ้านทรงเดิม อีกทั้งพื้นที่ศิลปะร่วมสมัย ที่บรรดาศิลปินต่างตั้งพื้นที่เพื่อแสดงงานศิลปะของตัวเอง เช่น บริเวณสะพาน มีพื้นที่จำหน่ายภาพวาดสีอะคริลิก ร้านจำหน่ายโปสการ์ดทิวทัศน์จันทบุรี และงานย้อมครามที่ถูกจำหน่ายเคียงข้างร้านอาหาร หรืองานหนังแท้ทำมือของ “นวล” สินค้าทำมือราคาย่อมเยาที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ร้านกาแฟเพลิน เพลิน ร้านค้าที่ประดับชานไม้หน้าร้านด้วยไม้ทรงเดิม โปสเตอร์โฆษณาย้อนยุค และผนังเพนต์สตรีทอาร์ต เสริมบรรยากาศสุดคลาสสิค นับได้ว่าตลาดริมแม่น้ำจันทบุรี เป็นยิ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด หากมาเยือนจันทบุรี
12.00-13.00 น. รับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านจันทรโภชนาการ เมนูผัดไทยเส้นจันท์ เมนูเส้นเมืองจันท์ที่เหนียวนุ่ม และซอสผัดรสชาติหวานนำเผ็ดตาม เป็นสูตรเฉพาะตัวเมืองจันท์
13.30-16.30 น. เดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ที่ตั้งอยู่ในเขตของ เทือกเขาสระบาป อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ภายในอุทยานฯ นอกจากจะมีน้ำตกเย็นสดชื่นตลอดทั้งปี ก็ยังเป็นจุดที่จารึกประวัติศาสตร์สำคัญของไทย เพราะเป็นน้ำตกที่รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสถึง 12 ครั้ง หลังจากเหตุการณ์เศร้าโศกของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้สร้างพีระมิดแห่งความรัก เพื่อเป็นที่ระลึกแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอีกด้วย โดยภายในสถูปนั้นก็จะบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯ หรือพีระมิดพระนางเรือล่ม กิจกรรมวันนี้จบลงเมื่อ 17.00 น. คณะทัวร์เดินทางเข้าพักที่โรงแรม Trim เพื่อเข้าพักผ่อนตามอัธยาศัย
ทางเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
สุดท้ายก่อนบายเมืองจันท์
วันสุดท้ายของเส้นทางการเดินทางระยองเมืองจันท์ คณะทัวร์เก็บสัมภาระ เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับมหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังจากกิจกรรมมากมาย ในกิจกรรมช่วงเช้านี้เป็นไปด้วยความผ่อนคลาย
9 ตุลาคม 2565
ในเช้าวันสุดท้าย 08.30 น. คณะทัวร์เดินทางออกจากโรงแรม Trim เพื่อมุ่งหน้าที่คาเฟ่สไตล์มินิมอลอย่างคาเฟ่ ลาเต้ คอฟฟี่ ใช้เวลาประมาณ 09.10 น. ก็เดินทางถึงคาเฟ่ ลาเต้ คอฟฟี่ (Latte Coffee House Chanthaburi) ตั้งอยู่ในอ.เมือง จ.จันทบุรี บรรยากาศใจกลางเมือง คาเฟ่ริมน้ำจันทบุรี ตกแต่งทันสมัย รูปแบบเมดิเตอร์เรเนียน ภายในมีหลายมุมให้ลูกทัวร์ได้เลือกสรร ไม่ว่าจะพักชิมของหวาน หรือถ่ายภาพคู่บรรยากาศริมน้ำจันทบุรี ภายนอกบรรยากาศร่มรื่น ทำให้โดยรอบเย็นสบายไม่ร้อนเกินไป เมื่อเวลา 09.50 น. เดินทางไปอาอ๋า ของฝากจันทบุรี เพื่อจับจ่ายของฝาก
12.30-13.30 น. พักรับประทานอาหารเที่ยงตามอัธยาศัย ณ ปั๊มน้ำมันปตท. เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทราและออกเดินทางต่อ เพื่อมุ่งหน้ากลับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และแล้วกิจกรรมทั้งหมดก็สิ้นสุดลง และในเวลา 20.30 น. เดินทางกลับถึงคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยสวัสดิภาพ
อาอ๋า ร้านของฝากจันทบุรี
กิจกรรมทั้งหมดนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์ดร.จิราธร ชาติศิริ ประธานหลักสูตรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ที่ได้สนับสนุนกิจกรรมการเดินทาง รวมไปถึงกลุ่มนักศึกษาวิชาเอกสารสนเทศอีกด้วย ที่ได้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้
การเดินทางตั้งแต่ต้นจนสุดปลายทาง แม้จะมีอุปสรรคเกิดขึ้นระหว่างทาง แต่ทุกฝ่ายก็จัดการ แก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เท่าที่จะจัดการได้ในขณะนั้น ตลอดเส้นทางการเดินทางนอกจากจะได้เที่ยวชม สถานที่แปลกตา ยังเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างสองพื้นที่ จากถาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่ภาคตะวันออก พื้นที่ต่าง ๆ เป็นตัวแทนความคิดของผู้คนในสถานที่นั้น การมาเยือน ก็คือการมาแลกเปลี่ยน
ฉะนั้นการเดินทางเพื่อไปแลกเปลี่ยนความคิด ศิลปะ วัฒนธรรมและบรรยากาศชุมชนนี้ เป็นเส้นทางที่ไม่มีสิ้นสุด กิจกรรมการท่องเที่ยวระยองจันทบุรีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการแลกเปลี่ยน ยังคงมีเส้นทางอีกมากที่ยังคงอยู่ รอคอยให้นักเดินทางทุกท่านออกค้นหา และค้นพบอยู่เสมอ
นั่งเรือข้ามไปยังเกาะเสม็ด
ถ่ายภาพรวมกลุ่มก่อนจะออกจากเกาะเสม็ด
No comments:
Post a Comment