โครงการ "Go Together ไปด้วยกาญ"

หลักสูตรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดกิจกรรรม "Go Together ไปด้วยกาญ" ที่จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 12-15 พฤศจิกายน 2563 เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ใน concept "เที่ยวแคว้นโบราณ ข้ามสะพานแม่น้ำแคว นอนแพริมน้ำ ลิ้มรสอาหารเมืองกาญจนบุรี" โดยมีโดยมีจุดประสงค์ให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้จากการท่องเที่ยวจากสถานที่ต่าง ๆ และเสริมสร้างทักษะการเป็นมัคคุเทศก์แก่นักศึกษาสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา เอกประวัติศาสตร์การท่องเที่ยว โดยตลอดทริปอัดแน่นไปด้วยความสนุกสนานและความรู้ มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำร่วมกัน เช่น กิจกรรมเล่นแพเปียก กิจกรรมร่วมตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หรือสถานที่ท่องเที่ยวแคว้นโบราณต่าง ๆ ที่ได้ไปเยี่ยมชมตลอดทริป กิจกรรมสันทนาการบนรถระหว่างการเดินทาง และฝึกปฏิบัติการมัคคุเทศก์ โดยมีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ร่วมเดินทางไปด้วยทั้งหมด 37 คน และมีอาจารย์ ดร.จิราธร ชาติศิริ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ 

รายงานโดย นฤมล ศิริมา 

ภาพโดย อาจารย์ ดร.จิราธร ชาติศิริ และ นฤมล ศิริมา 

โดยวันแรกได้เดินทางออกจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นในเช้ามืดของวันที่ 12 และเดินทางถึงจังหวัดกาญจนบุรีในช่วงบ่าย จากนั้นได้เข้าพักที่แพริมน้ำ Green House River Kwai Resort เป็นเวลาหนึ่งคืน โดยมีกิจกรรมระหว่างที่พัก คือการเล่นแพเปียกอย่างสนุกสนาน โดยอยู่ภายใต้การดูแลจากทางรีสอร์ทและอาจารย์ที่ปรึกษา

ภาพที่หนึ่ง : ภาพโดย อาจารย์ ดร.จิราธร ชาติศิริ

วันที่สอง ได้ออกเดินทางไปพิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำช่องเขาขาด (Hellfire Pass) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า (ทางรถไฟสายมรณะ) ที่ตลอดการเดินทางเท้า ได้รับชมมุมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทาง และได้พบร่องรอยของการก่อสร้างทางรถไฟที่เกิดจากการตัดเจาะภูเขาหินด้วยมือของเชลยศึกชาวออสเตรียและอังกฤษ พร้อมทั้งมีเครื่องบรรยาย สามารถรับได้ที่อาคารพิพิธภัณฑ์ที่จะบรรยายจุดต่าง ๆ ด้วยระบบเสียง 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาดัตช์และภาษาไทย ที่ทำให้ได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาและความโหดร้ายของสงครามในยุคนั้น จากนั้นได้เดินทางไปเข้าพักที่โรงแรม Eurotel Hotel  

ภาพที่สอง : เส้นทางระหว่างการเดินสำรวจร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ณ ช่องเขาขาด 

ภาพโดย นางสาวนฤมล ศิริมา

เช้าวันที่สาม (วันที่ 14 พฤศจิกายน) ได้ออกเดินทางไปศึกษาประวัติศาสตร์ที่อุทยานเมืองสิงห์ ร่องรอยของอารยธรรมเขมรที่มาไกลถึงภาคตะวันตกของไทย เป็นโบราณสถานที่สร้างขึ้นกว่า 800 ปีที่แล้ว  ต่อด้วยชมความสวยงามของถ้ำธรรมชาติอันสวยงามของถ้ำพุหว้าที่ทางเข้าถ้ำทำเป็นศิลปะแบบขอมประยุกต์ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามตามธรรมชาติ ถัดไปด้วยสุสานทหารดอนรัก หรืออีกชื่อที่รู้จักคือ “ป่าช้าอังกฤษ” เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 17 ไร่ บรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะถึง 6,982 หลุม ต่อมาวัดถาวรวรารามหรือวัดญวน เป็นศิลปะแบบจีนผสมกับญวน เป็นวัดพุทธศาสนาฝ่ายอนัมนิกาย ลัทธิมหายาน  ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” จากนั้นต่อด้วยการเยี่ยมชมหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการจัดแสดงหลักฐานเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และยังมีการจัดแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและพม่าด้วย

ภาพที่สาม : ภาพถ่ายของนักศึกษาที่เข้าร่วมทริปในครั้งนี้ ณ อุทยานเมืองสิงห์ 

ภาพโดย อาจารย์ ดร.จิราธร ชาติศิริ

ตกเย็นได้เดินทางไปเที่ยวชมบรรยากาศเมืองกาญจนบุรี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุด Unseen Thailand คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่มีรถไฟผ่านสะพานเวลา 16:30 น. ซึ่งตรงกับเวลาที่กลุ่มของทริปเราอยู่ตรงจุดสะพานพอดี

ภาพที่สี่ : ภาพบรรยากาศการรับฟังข้อมูลประวัติของสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่บรรยายโดยนักศึกษาสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา เอกวิชาประวัติศาสตร์การท่องเที่ยว ภาพโดย นางสาวนฤมล ศิริมา

จากนั้นได้ไปแวะชมประตูเมืองเก่าของจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะไปเดินถนนคนเดินปากแพรกเพื่อเลือกซื้อของและรับประทานอาหารในยามเย็นข้างแนวกำแพงเมืองเก่าแก่ของกาญจนบุรี

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมาจนถึงวันที่สี่ของทริป “Go Together ไปด้วยกาญ” 

เช้าวันที่ 15 พฤศจิกายน ทางคณะนักศึกษาและอาจารย์ได้ออกเดินทางจากที่พักแต่เช้าเพื่อไปวัดถ้ำเสือ ที่มีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ประดิษฐาน พร้อมด้วยเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทที่มีความสูงใหญ่เด่นและอลังการอยู่บนเนินเขา

ภาพที่ห้า : ภาพถ่าย ณ ยอดพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท วัดถ้ำเสือ 

ภาพโดย นางสาวนฤมล ศิริมา

ทั้งนี้ ตลอดการเดินทาง 4 วัน 3 คืน ของทริป “Go Together ไปด้วยกาญ” ได้สร้างความประทับใจและมิตรภาพความทรงจำที่ดี และยังได้รับความรู้ในเรื่องของประวัติศาสตร์ ได้ชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามในประเทศไทย และนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการได้ฝึกปฎิบัติในการเป็นผู้บรรยาย นำเที่ยว หรือเป็นมัคคุเทศก์ในสถานที่จริงด้วย นับเป็นโครงการฝึกปฏิบัติการท่องเที่ยวที่ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงนอกตำราที่น่าประทับใจอีกครั้งหนึ่ง ต้องขอขอบคุณสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาที่ได้ส่งเสริมให้มีกิจกรรมดีๆ ในครั้งนี้


No comments:

Post a Comment